โกรทฮอร์โมน เพิ่มความสูง เด็กมีความสำสัญยังไง หากใช้ภายใต้การดูแลแพทย์เฉพาะทาง
October 11 / 2025

โกรทฮอร์โมน เพิ่มความสูง

 

การเติบโตของเด็กในช่วงวัยเจริญเติบโตเป็นสิ่งที่ผู้ปกครองให้ความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องของความสูง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถมีผลต่อความมั่นใจในตัวเองและสุขภาพในระยะยาว โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) เป็นฮอร์โมนที่มีบทบาทสำคัญในกระบวนการเติบโตของร่างกาย โดยเฉพาะในส่วนของกระดูกและกล้ามเนื้อ จึงมีหลายครอบครัวที่หันมาใช้โกรทฮอร์โมนเพื่อช่วยเพิ่มความสูงให้กับเด็กที่ยังอยู่ในช่วงวัยเจริญเติบโต แต่การใช้โกรทฮอร์โมนเพื่อเพิ่มความสูงนั้นจะต้องทำภายใต้การดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจว่าการใช้จะเป็นไปอย่างปลอดภัยและได้ผลที่ดีที่สุด

โกรทฮอร์โมนคืออะไร

โกรทฮอร์โมน (growth hormone หรือ somatotropin) เป็นฮอร์โมนที่สำคัญที่หลั่งจากส่วนหน้าของต่อมใต้สมอง (anterior pituitary gland) ในร่างกายมนุษย์ ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโน 191 ตัว โกรทฮอร์โมนมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของร่างกาย โดยมีผลต่อการเจริญเติบโตของเซลล์ เนื้อเยื่อ และอวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกาย

การหลั่งโกรทฮอร์โมนเกิดขึ้นตลอดชีวิต แต่ปริมาณที่หลั่งออกมาจะแตกต่างกันไปตามช่วงวัย ในวัยเด็กที่กำลังเจริญเติบโตจะมีการหลั่งโกรทฮอร์โมนสูง โดยเฉพาะในช่วงเวลาหลับ เด็กที่มีระดับโกรทฮอร์โมนสูงจะมีการเจริญเติบโตที่ดี ทำให้กระดูกยาวขึ้นและรูปร่างสูงใหญ่ขึ้น ส่วนในผู้ใหญ่ที่หยุดการเจริญเติบโตแล้ว ฮอร์โมนนี้จะช่วยให้กระดูกมีความหนาและกว้างขึ้น

หากเด็กขาดโกรทฮอร์โมน หรือมีการหลั่งที่ไม่เพียงพอ ผลที่เห็นชัดเจนคือเด็กจะมีรูปร่างเตี้ยและไม่สามารถเติบโตได้ตามปกติ

สาเหตุที่เด็กโตช้าและตัวเตี้ยจากการขาดโกรทฮอร์โมน

การที่เด็กโตช้าหรือมีความสูงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยนั้นสามารถเกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งบางครั้งอาจเกิดจากพันธุกรรมของพ่อแม่ การขาดโภชนาการ หรือการขาดโกรทฮอร์โมน 

การขาดโกรทฮอร์โมน เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เด็กเติบโตช้าและตัวเตี้ย เมื่อโกรทฮอร์โมนไม่สามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์และเนื้อเยื่อต่าง ๆ ได้อย่างเพียงพอ ส่งผลให้การเจริญเติบโตของกระดูกช้าและร่างกายไม่สามารถสูงขึ้นได้ตามปกติ ภาวะนี้อาจเกิดขึ้นตั้งแต่เกิดหรือพัฒนาในภายหลัง ซึ่งอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ความผิดปกติของต่อมใต้สมอง หรือปัญหาทางพันธุกรรม

หากเด็กขาดโกรทฮอร์โมนเพียงอย่างเดียว การรักษาจะมุ่งเน้นการเสริมโกรทฮอร์โมนเพื่อช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโต หากพบว่ามีการขาดฮอร์โมนชนิดอื่นร่วมด้วย เช่น ฮอร์โมนเพศหรือไทรอยด์ ก็จำเป็นต้องรักษาภาวะเหล่านั้นควบคู่กันไปด้วย

ยาโกรทฮอร์โมน รักษาเด็กโตช้า

การใช้ยาโกรทฮอร์โมนเพื่อรักษาภาวะเด็กโตช้าและเด็กตัวเตี้ยมีความสำคัญมาก เนื่องจากการให้ยาจะต้องทำก่อนที่ส่วนปลายของกระดูกยาว (epiphysis) จะเชื่อมปิดกัน ซึ่งช่วยให้กระดูกของเด็กสามารถยืดตัวและเติบโตได้ตามปกติ โดยยาโกรทฮอร์โมนที่ใช้ในปัจจุบันมีหลายประเภทและผลิตขึ้นด้วยวิธีทางเทคโนโลยีชีวภาพเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด

โซมาเทรม

เป็นรีคอมบิแนนต์โกรทฮอร์โมนที่ผลิตโดยการเพิ่มกรดอะมิโนเมไทโอนีน (methionine) ที่ปลายด้าน N-terminus ของโซมาโทรพิน ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการกระตุ้นการเจริญเติบโต

โซมาโทรพิน

เป็นรีคอมบิแนนต์ฮิวแมนโกรทฮอร์โมน (rhGH) ที่ผลิตให้มีกรดอะมิโน 191 ตัว และใช้ฉีดเข้าใต้ผิวหนังหรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อ โดยปริมาณยาขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของการขาดโกรทฮอร์โมนในเด็ก ขนาดยาจะอยู่ที่ 0.025-0.05 มิลลิกรัม/กิโลกรัมน้ำหนักตัว/วัน หรือ 0.7-1.4 มิลลิกรัม/ตารางเมตรผิวกาย/วัน ขนาดยานี้จะได้รับการปรับทุก 6-12 เดือนตามการเจริญเติบโตของเด็ก โดยการติดตามผลการรักษาผ่านการตรวจระดับ IGF-1 ในซีรัมเป็นประจำเพื่อประเมินผลของการรักษา หากระดับไอจีเอฟ-1 สูงเกินไป ควรลดขนาดยาเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

โลนาเพกโซมาโทรพิน

เป็นรีคอมบิแนนต์โกรทฮอร์โมนชนิดใหม่ที่เชื่อมกับพาหะ (methoxypolyethylene glycol carrier) ซึ่งช่วยให้ยาออกฤทธิ์ได้ยาวนาน ใช้ฉีดเพียงสัปดาห์ละครั้ง โดยมีความสะดวกมากขึ้นเมื่อเทียบกับโซมาโทรพินที่ต้องฉีดทุกวัน ยานี้ได้รับการอนุมัติในบางประเทศเพื่อรักษาภาวะการเจริญเติบโตล้มเหลวในเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป ขนาดยาที่แนะนำคือ 0.24 มิลลิกรัม/กิโลกรัมต่อสัปดาห์ โดยฉีดเข้าใต้ผิวหนังและเปลี่ยนบริเวณที่ฉีดเพื่อไม่ให้เกิดการฝ่อของเนื้อเยื่อไขมันตรงที่ฉีด

การใช้ยาโกรทฮอร์โมนต้องทำภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุดและลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง

ยาโกรทฮอร์โมนใช้กับใครบ้าง

ยาโกรทฮอร์โมนถูกนำมาใช้รักษาภาวะเด็กเติบโตช้าและเด็กตัวเตี้ยในหลายกรณี โดยมีผลการรักษาที่ดีในบางกลุ่มผู้ป่วย แต่ยังมีบางกรณีที่ผลการศึกษาไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีประสิทธิภาพในระดับที่แน่ชัด

1. เด็กที่ขาดโกรทฮอร์โมน (หรือหลั่งไม่เพียงพอ)


ในเด็กที่มีการขาดโกรทฮอร์โมน ซึ่งสามารถเกิดจากความผิดปกติของต่อมใต้สมอง การใช้ยาโกรทฮอร์โมนในช่วงวัย 0-3 ปี โดยเฉพาะหากเริ่มใช้ก่อนอายุ 12 เดือน จะเห็นผลดีในการเพิ่มทั้งส่วนสูงและน้ำหนัก

2. เด็กตัวเตี้ยที่มีความผิดปกติร่วมกับโรคอื่น


ในกรณีที่เด็กตัวเตี้ยมีความผิดปกติทางพันธุกรรมหรืออาการพิเศษ เช่น กลุ่มอาการนูแนน (Noonan syndrome) หรือ กลุ่มอาการเทอร์เนอร์ (Turner syndrome) การใช้ยาโกรทฮอร์โมนสามารถช่วยเพิ่มความสูงได้ เช่น ในกรณีของกลุ่มอาการเทอร์เนอร์ เด็กอาจเพิ่มความสูงได้ประมาณ 5-8 เซนติเมตร อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการเพิ่มความสูงจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พันธุกรรมและอายุที่เริ่มใช้ยา

3. เด็กตัวเตี้ยเนื่องจากภาวะทารกตัวเล็กตั้งแต่คลอด


เด็กที่เกิดมามีขนาดตัวเล็กเมื่อเทียบกับอายุครรภ์ (small for gestational age) และไม่เติบโตตามเกณฑ์ในช่วงอายุ 2-4 ปี การรักษาด้วยโกรทฮอร์โมนอาจช่วยให้เด็กเติบโตได้ในระดับหนึ่ง แต่ผลการรักษาอาจแตกต่างกันตามพันธุกรรม อายุเมื่อเริ่มใช้ยา และระยะเวลาการใช้ยา