โรงพยาบาลเชียงใหม่ ราม chiangmai ram hospital
ENG
ไทย
ENG
ไทย
Toggle navigation
หน้าแรก
(current)
ข่าวสาร
(current)
แพทย์
ค้นหาแพทย์
นัดแพทย์
บริการสำหรับผู้ป่วย
มีเดีย
วารสาร
รายการ TV
บทความสุขภาพ
INFOGRAPHIC
การรักษา
ศูนย์เฉพาะทาง
แผนก
เชียงใหม่ ราม เฮลท์ แอปพลิเคชัน
สิ่งอำนวยความสะดวก
ห้องพักผู้ป่วยใน
บริการอื่นๆ
แพ็กเกจ
แพ็คเกจและโปรโมชั่น
แพ็คเกจคลอด
บริการซื้อแพ็คเกจออนไลน์
เกี่ยวกับเรา
(current)
ติดต่อเรา
ติดต่อเรา
สมัครงาน
ค้นหาแพทย์
นัดแพทย์
มีเดีย
วารสาร
รายการ TV
บทความสุขภาพ
INFOGRAPHIC
การรักษา
ศูนย์เฉพาะทาง
แผนก
เชียงใหม่ ราม เฮลท์ แอปพลิเคชัน
สิ่งอำนวยความสะดวก
ห้องพักผู้ป่วยใน
บริการอื่นๆ
แพ็คเกจและโปรโมชั่น
แพ็คเกจคลอด
บริการซื้อแพ็คเกจออนไลน์
ติดต่อเรา
สมัครงาน
หน้าแรก
มีเดีย
บทความสุขภาพ
ตรวจสุขภาพหัวใจทำได้อย่างไรบ้าง
ตรวจสุขภาพหัวใจทำได้อย่างไรบ้าง
December 13 / 2022
โรคหัวใจเป็นโรคที่คร่าชีวิตคนเป็นจำนวนมากในอันดับต้นๆ หลายรายมีอาการบอกเหตุล่วงหน้า ทำให้รู้ตัวและหากวิธีป้องกันได้ก่อน แต่มีไม่น้อยที่ไม่เคยมีอาการใดๆมาก่อนเลย พอรู้ตัวอีกทีก็ป่วยหนักรุนแรงจนถึงแก่ชีวิตแล้ว ดังนั้นเราจึงควรหมั่นตรวจสุขภาพหัวใจเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 35-40 ปี ควรตรวจสุขภาพหัวใจอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ควบคู่กับการตรวจสุขภาพประจำปี ซึ่งการตรวจสุขภาพหัวใจนั้นมีอยู่หลายวิธี ขึ้นอยู่กับอาการและการวินิจฉัยของแพทย์ โดยมีวิธีที่ใช้บ่อยดังต่อไปนี้
1. การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiography : EKG)
เป็นการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ตรวจเช็คกระแสไฟฟ้าที่หัวใจผลิตออกมาขณะหดตัวหรือคลายตัว ซึ่งจะแสดงผลออกมาเป็นกราฟแสดงคลื่นไฟฟ้าหัวใจ หากมีคลื่นไฟฟ้าสม่ำเสมอก็แสดงถึงหัวใจที่ทำงานปกติ แต่หากกราฟแสดงผลออกมาผิดปกติก็อาจแสดงถึงการทำงานของพยาธิหัวใจที่ผิดปกติ วิธีนี้สามารถทำได้ง่าย สะดวก ไม่เจ็บ และให้ผลได้เร็ว การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจใช้สำหรับ การตรวจเพื่อค้นหาภาวะกล้ามเนื้อขาดเลือด , ตรวจเพื่อค้นหาสิ่งผิดปกติของหัวใจ , ตรวจเพื่อค้นหาความผิดปกติของคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่อาจเกิดจากความผิดปกติของระดับเกลือแร่ของร่างกาย
2. การตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง (CT 128 Slices)
เป็นการตรวจหัวใจและเส้นเลือดที่เลี้ยงหัวใจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง ที่ให้ความละเอียดของภาพสูง แม่นยำ ใกล้เคียงกับการใส่สายสวนผ่านหลอดเลือดที่เลี้ยงหัวใจ นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายภาพในขณะหัวใจเต้น และ ให้รายละเอียดเกี่ยวกับกล้ามเนื้อหัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจ หลอดเลือดหัวใจ รวมทั้งปริมาณแคลเซียม หินปูนที่เกาะอยู่ตามผนังหลอดเลือดหัวใจ โดยไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล โดยเฉพาะการตรวจแบบ CT 128 Slices ยังสามารถตรวจหาความผิดปกติของอวัยวะในส่วนอื่นๆได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น การตรวจหาเนื้องอกระยะเริ่มต้นในลำไส้ใหญ่ , ตรวจหาเนื้องอกระยะเริ่มต้นในเนื้อเยื่อปอด , ตรวจหาความผิดปกติของกระดูกส่วนต่างๆของร่างกาย , ตรวจหาความผิดปกติของเนื้อเยื่อสมอง และหลอดเลือดสมอง , ตรวจหาความผิดปกติของเนื้อเยื่อในช่องท้อง
3. เครื่องบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ชนิดติดตามตัว (Holter Monitor)
ในกรณีที่ตรวจหัวใจด้วยวิธีตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจแล้วไม่พบความผิดปกติ แต่พบว่ายังมีอาการของโรคที่น่าสงสัยว่าหัวใจอาจมีความผิดปกติ อาจใช้เครื่องบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจชนิดติดตามตัวตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ตรวจเช็คว่ากิจกรรมต่างๆในชีวิตมีผลทำให้คลื่นไฟฟ้าหัวใจมีความผิดปกติหรือไม่
4. เครื่องตรวจคลื่นหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง (Echocardiography)
การตรวจคลื่นหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง หรือ เรียกสั้นๆว่า “เอคโค่” เป็นการทำอัลตร้าซาวด์หัวใจ โดยใช้หลักการส่งคลื่นเสียงความถี่สูงไปที่หัวใต แล้วส่งสัญญาณกลับเพื่อตรวจความผิดปกติของหัวใจจากการแสดงภาพเงาตามความหนาบางของเนื้อเยื่อหัวใจที่ตกกระทบ โดยการทำเอคโค่สามารถตรวจดูความเคลื่อนไหวของหัวใจ การบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ รูปร่างของหัวใจ ความหนาของผนังกล้ามเนื้อหัวใจ การทำงานของลิ้นหัวใจ ความพิการและความผิดปกติของหัวใจ เพื่อใช้ประกอบการวินิจฉัยของแพทย์โดยไม่มีอันตรายและความเจ็บปวดใดๆ โดยใช้เวลาในการตรวจเพียง 20-30 นาที
5. เครื่องตรวจสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย (Exercise Stress Test)
วิธีนี้เรียกง่ายๆได้ว่า “วิ่งสายพาน” เป็นการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจขณะออกกำลังกายด้วยการวิ่งสายพาน เพื่อให้หัวใจทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อตรวจสอบว่าในขณะที่หัวใจกำลังทำงานอย่างหนักอยู่นั้น หัวใจมีภาวะขาดเลือดหรือไม่ โดยสังเกตุจากการเปลี่ยนแปลงคลื่นไฟฟ้าของหัวใจ รวมไปถึงอัตราการเต้นของหัวใจ และอาการอื่นๆ เช่น การแน่นหน้าอก หายใจลำบาก เป็นต้น การตรวจด้วยวิธีนี้จะสามารถตรวจเช็คโรคหัวใจขาดเลือด , โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะในเบื้องต้น เพื่อให้แพทย์สามารถทำการวินิจฉัยต่อไปได้
การดูแลสุขภาพของหัวใจถือเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การทานอาหารที่มีประโยชน์ การพักผ่อน และที่สำคัญการตรวจสุขภาพของหัวใจอย่างเป็นประจำนั่นเอง โดยหากท่านมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่โรงพยาบาลเชียงใหม่ ราม แผนกโรคเฉพาะทาง โทร.052-004699 ต่อ 4000