อาการของอาหารเป็นพิษ และการรักษาที่ถูกต้อง
December 16 / 2025

อาหารเป็นพิษ

 

อาหารเป็นพิษเกิดจากการทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือสารพิษจากอาหารเสีย ทำให้เกิดอาการเล็กน้อย เช่น คลื่นไส้ ปวดท้อง ไปจนถึงรุนแรง ในบางกรณีอาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นทันทีหรือค่อยๆเป็น บางครั้งอาการก็ไม่ชัดเจนจนไม่ได้รับการรักษา ส่งผลให้ผู้ป่วยไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม โดยมักพบได้บ่อยในช่วงฤดูร้อนและในพื้นที่ที่อาหารหรือการเก็บรักษาไม่สะอาด

รู้จักสาเหตุของอาหารเป็นพิษ

อาหารเป็นพิษ (Food Poisoning) คือภาวะที่เกิดจากการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรค เช่น แบคทีเรีย ไวรัส ปรสิต หรือสารพิษจากจุลชีพ ซึ่งทำให้ระบบทางเดินอาหารอักเสบอย่างเฉียบพลัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออาหารถูกปรุงหรือเก็บรักษาไม่ถูกสุขลักษณะ

เชื้อโรคที่เป็นสาเหตุสำคัญของอาหารเป็นพิษ

1. ซาลโมเนลลา (Salmonella)

เชื้อนี้พบมากในเนื้อสัตว์ดิบ ไข่ดิบ นมดิบ และผลิตภัณฑ์จากนมที่ไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อ หากอาหารถูกปรุงไม่สุกหรือปนเปื้อนขณะเตรียม ก็อาจทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้

2. เอสเชอริเชีย โคไล หรืออีโคไล (Escherichia coli - E. Coli)

บางสายพันธุ์ของอีโคไลสามารถก่อให้เกิดโรคอย่างรุนแรง โดยมักพบในเนื้อสัตว์ดิบ ผักสดที่ล้างไม่สะอาด หรืออาหารสดที่สัมผัสแหล่งปนเปื้อน

3. คลอสติเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum)

เป็นเชื้อที่เจริญได้ดีในภาชนะปิดสนิท เช่น หน่อไม้ปี๊บ หน่อไม้ดอง อาหารกระป๋องคุณภาพต่ำ หากกระบวนการผลิตไม่สะอาด เชื้อนี้สามารถสร้างสารพิษร้ายแรงต่อระบบประสาทได้

4. ชิเกลล่า (Shigella)

มักปนเปื้อนในน้ำดื่ม อาหารสด หรืออาหารที่สัมผัสผู้ติดเชื้อโดยตรง สามารถทำให้ถ่ายเป็นมูกเลือดอย่างรุนแรงได้

5. ไวรัสในทางเดินอาหาร (Enteric Viruses)

สามารถแพร่เชื้อผ่านอาหารและน้ำดื่มที่ปนเปื้อน พบได้มากในอาหารทะเลและอาหารสด

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาหารเป็นพิษ

นอกจากอาหารดิบหรืออาหารไม่สะอาดแล้ว ยังมีอาหารหลายประเภทรวมถึงพฤติกรรมการเก็บรักษาอาหารที่ทำให้เกิดอาหารเป็นพิษได้ง่าย เช่น

  • อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ
     

  • อาหารกระป๋องที่บุบ รั่ว หรือขึ้นสนิม
     

  • ของหมักดองที่การผลิตไม่ได้มาตรฐาน
     

  • อาหารที่ถูกแมลงวันตอม
     

  • อาหารที่มีส่วนผสมของกะทิและถูกทิ้งไว้นาน
     

  • อาหารเผ็ดจัด หรือเค็มจัด ซึ่งเสี่ยงเสียได้ง่าย
     

  • อาหารปรุงทิ้งไว้หลายชั่วโมงโดยไม่อุ่น
     

  • ใช้เขียงเดียวกันหั่นเนื้อและผัก ทำให้เกิดการปนเปื้อนข้าม
     

  • น้ำแข็งหรือภาชนะที่ไม่สะอาด
     

ปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ทำให้เชื้อโรคเติบโตได้รวดเร็ว โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนชื้น หากรับประทานเข้าไปทำให้เกิดอาหารเป็นพิษ

อาการของคนเป็นอาหารเป็นพิษ

เมื่อร่างกายรับเชื้อโรคหรือสารพิษเข้าไป ระบบทางเดินอาหารจะตอบสนองโดยพยายามขับสิ่งแปลกปลอมออก อาการอาจเกิดขึ้นภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังรับประทานอาหาร หรือบางกรณีอาจใช้เวลานานถึง 1-2 วัน

1. คลื่นไส้ และอาเจียน

เป็นการขับเชื้อหรือสารพิษออกจากร่างกาย อาจเกิดขึ้นทันทีที่ร่างกายเริ่มได้รับผลกระทบ

2. ปวดเกร็งท้อง

มักเป็นอาการที่ผู้ป่วยรู้สึกได้ชัดเจนที่สุด เกิดจากการอักเสบในลำไส้

3. ถ่ายเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำ

ช่วยให้ร่างกายกำจัดเชื้อออก แต่หากถ่ายบ่อยอาจเสี่ยงขาดน้ำได้

4. เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย

เป็นผลจากการสูญเสียน้ำและเกลือแร่ รวมถึงการอักเสบของระบบย่อยอาหาร

5. มีไข้

บางรายอาจมีไข้ร่วมด้วย โดยเฉพาะหากเป็นอาหารเป็นพิษจากแบคทีเรีย

อาการอาหารเป็นพิษที่อันตรายควรรีบไปพบแพทย์ทันที

แม้อาหารเป็นพิษส่วนใหญ่จะหายได้เอง แต่บางกรณีมีอันตรายมากกว่าที่คิด ควรพบแพทย์หากพบว่า

  • ถ่ายเป็นเลือด
     

  • มีสัญญาณของร่างกายขาดน้ำ เช่น อ่อนเพลียมาก หน้ามืด เวียนศีรษะ
     

  • มีไข้สูงเกิน 38.5°C
     

  • เวียนศีรษะ หน้ามืด หรือสัญญาณขาดน้ำ
     

  • ปวดท้องอย่างรุนแรง

การรักษาอาการอาหารเป็นพิษ

การรักษาหลักของอาหารเป็นพิษคือการดูแลให้ร่างกายได้รับน้ำและเกลือแร่อย่างเพียงพอ พร้อมปล่อยให้ระบบขับถ่ายทำงานตามธรรมชาติ เพื่อกำจัดเชื้อหรือสารพิษออกจากร่างกาย

วิธีดูแลตัวเองเมื่อเกิดอาหารเป็นพิษ

1. ดื่มน้ำเกลือแร่ (ORS) เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำ

เมื่อถ่ายเหลวหรืออาเจียน ร่างกายจะเสียเกลือแร่จำนวนมาก ควรจิบน้ำเกลือแร่บ่อย ๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ

2. พักผ่อนมาก ๆ

ร่างกายต้องใช้พลังงานในการฟื้นฟู หากพักผ่อนอย่างเพียงพอ อาการจะดีขึ้นเร็วขึ้น

3. เลือกรับประทานอาหารที่อ่อนและย่อยง่าย

ช่วงอาการกำลังดีขึ้น ควรรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย เช่น

  • ข้าวต้ม
     

  • น้ำซุป
     

  • โจ๊ก

งดอาหารประเภท ของมันจัด, เผ็ดจัด, หมักดอง, นมวัว, ชา-กาแฟ, แอลกอฮอล์

อาหารเป็นพิษใช้เวลากี่วันหาย

อาหารเป็นพิษโดยทั่วไปมักดีขึ้นภายใน 1-3 วัน หากเป็นกรณีไม่รุนแรง ร่างกายได้รับการพักผ่อนเพียงพอ และดื่มน้ำเกลือแร่เพื่อทดแทนของเหลวที่สูญเสียไป แต่หากอาการยังไม่ดีขึ้นเกิน 2-3 วัน หรือมีอาการรุนแรง เช่น อาเจียนบ่อยหรือถ่ายเป็นเลือด ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

อาหารเป็นพิษอาจทำให้ร่างกายทรมานกว่าที่คิด แต่หากเข้าใจสาเหตุ อาการ และวิธีดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง ร่วมกับการสังเกตสัญญาณอันตราย ก็สามารถฟื้นตัวได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็ว การดื่มน้ำเกลือแร่ พักผ่อนให้เพียงพอ และเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม เป็นหัวใจสำคัญของการรักษา